Attribute & Block Definition (ATT & B)

เหตุการณ์จริง ณ ที่ทำงาน ในวันแรกที่ได้ยินคำว่า text attribute 

เจ้านาย : ทำแบบเสร็จแล้ว เดี๋ยวทำ text attribute ด้วยนะ เวลาแก้ไขจะได้แก้ง่าย หรือเวลาก็อปปี้ text จะได้ไม่หล่นหาย

ผม : (คิดในใจ ชิบหายละ อะไรคือ text attribute วะ) อ่อ ครับๆ

หลังจากนั้นก็สอบถามรุ่นพี่วุ่นเลยครับ จนได้ความรู้ และทำเป็นในที่สุด เอาล่ะ งั้นเรามาเริ่มเรียนกันเลยครับ...

ดูคลิปสั้นๆ แบบเงียบๆ บนยูทูปได้ ที่นี่ (ทำไมในคลิปผมไม่ก๊อปปี้น่ะเหรอ หึหึ ผมลืมไง ฮ่าๆๆๆ แต่จริงๆทำใหม่ทุกอันก็ดีนะครับ การตั้งค่าจะได้ชัวร์ทุกอัน)

1. จากโจทย์ ให้ทำ text attribute (บริษัทผมเรียกแบบนี้นะครับ แต่ละที่ๆคงจะเรียกไม่เหมือนกัน) ใส่ให้ครบ เพื่อทำการส่งแบบ

2. คำสั่งที่ใช้คือ ATT (ATTDEF)

3. กดคำสั่งเสร็จแล้ว มันก็จะขึ้นหน้าต่างแบบนี้มาให้ครับ

ในส่วนของ Mode ทางซ้ายมือ ผมเคยใช้แค่ 2 อันเท่านั้น คือ Lock position กับ Multipie lines

Lock position = การล็อคตำแหน่งของ ตัวหนังสือ ไม่ให้เคลื่อนย้ายได้ ในตอนที่ทำเป็น Block เสร็จแล้ว

Multipie lines = การทำ Att แบบมีเงื่อนไข หรือทำให้แก้ไขตัวหนังสือยากขึ้นนิดนึง (ผมขอเรียก text attribute สั้นๆว่า Att นะครับ)

4. ส่วนของ Attribute ทางขวามือ คือ ส่วนสำคัญที่เราต้องจัดการ

Tag = คำที่เราจะเห็น หลังจากที่กด ok แล้ว ซึ่งจริงๆจะใส่อะไรก็ได้ ไม่ได้ซีเรียสมากมาย

Prompt = คำที่เราจะเห็น หลังจากจับ Att ทำเป็น Block แล้ว ซึ่งจริงๆจะใส่อะไรก็ได้ ไม่ได้ซีเรียสอีกแหละ

Default = คำเริ่มต้น หลังจากจับ Att ทำเป็น Block แล้ว ซึ่งจริงๆจะใส่อะไรก็ได้ ไม่ได้ซีเรียส หรือปล่อยว่างไว้ก็ยังได้

ส่วนของ Text Settings ผมคงไม่ต้องอธิบายนะครับ ตั้งค่าตามใจชอบได้เลยครับ

ผมติ๊ก Lock position ออกนะครับ เพราะว่าเผื่ออนาคตข้างหน้า จะเกิดการย้ายตำแหน่งตัวหนังสือขึ้น

5. หลังจากที่ตั้งค่าต่างๆเสร็จแล้ว ก็กด ok แล้วคำที่เห็นก็คือ คำในช่อง Tag ตามที่ผมอธิบายไปข้างต้นนั่นเอง

6. ดับเบิ้ลคลิกที่ DRAWING ดูสิ ว่าจะเจออะไรบ้าง 

มันก็จะบอกว่า text นี้ เป็น Attribute นะ พร้อมขึ้นหน้าต่างแก้ไขมาให้ 

ปล. ในช่อง Tag นี้มีอาถรรพ์ (ใช่เหรอ) ใส่ภาษาอังกฤษตัวเล็กลงไป แต่พอกด ok มันก็จะกลายเป็นตัวใหญ่ทุกทีเลย

7. ผมก็ทำ Att จนครบแล้วครับ ทีนี้มาถึงขั้นตอนการทำ Block ให้สมบูรณ์ ให้เจ้า Att มันเริ่มทำงานได้สักที

8. คำสั่งที่ใช้คือ B (BLOCK)

9. กดคำสั่งเสร็จแล้ว ก็จะเจอหน้าตาแบบนี้แหละครับ 

ช่อง Name ก็ใส่ชื่อตามใจชอบเลยครับ

ส่วนของ Base point ให้กดที่ Pick point เพื่อสร้างจุดอ้างอิงของ Block ครับ

ส่วนของ Objects ให้กดที่ Select objects เพื่อเลือก Att ที่เราสร้างไว้แล้วนั่นเอง

**ตรงนี้มีทริกเล็กน้อย ในการ Select objects ถ้าเราเลือก Att เรียงลำดับก่อน-หลัง ในการแก้ไข text attribute มันก็จะง่ายต่อการจำครับ 

10. หลังจากตั้งค่า Block เสร็จแล้ว กด ok มันก็จะเจอหน้าต่างนี้ขึ้นมาครับ 

จะสังเกตได้ว่า คำทางซ้ายมือก็คือ Prompt

ส่วนคำทางขวามือก็คือ Default เราจะแก้ไขเลยก็ได้ หรือกด ok ผ่านไปเลยก็ได้ ไว้ค่อยแก้ไขทีหลัง

11. ผมแก้ไขเลย กด ok มันก็จะเป็นหน้าตาแบบนี้แหละครับ เสร็จแล้ววววว text attribute

12. ลองกดดับเบิ้ลคลิกที่ text attribute เพื่อแก้ไข มันก็จะขึ้นหน้าตาแบบนี้มาให้ครับ

สังเกตที่การเรียงของ Att ดูครับ ในตอนที่ผมทำ Block ตอนที่เลือก Select objects ผมเลือกเรียงลงมาอย่างเป็นระเบียบก่อน-หลัง ตอนที่แก้ไข text attribute มันเลยเป็นระเบียบ แก้ไขง่ายครับ

ข้อดีอีกอย่างของ text attribute คือ พอเราแก้ไขตัวหนังสือในหน้าต่างแก้ไข มันจะโชว์สิ่งที่เราแก้ทันที โดยที่เรายังไม่ทันได้กด ok เลยด้วยซ้ำ (A-01-05 กลายเป็น A-01-09 โดยที่ยังไม่ได้กด ok เลย)

งานทำ text attribute เหมือนจะจบไปได้ด้วยดี แต่เจ้านายก็แกล้งซ้ำสอง

เจ้านาย : ผมอยากได้ text attribute ที่มันเปลี่ยนค่าได้เอง ตอนปริ๊นออกมา เราจะได้รู้ว่าแบบแผ่นนี้มาจากไหนน่ะ เอาใส่วันที่ปริ๊นมาด้วยก็ดีนะ เราจะได้รู้ว่าแบบนี้มันนานแค่ไหนแล้ว 

ผม : (คิดในใจ ชิบหายละ ยากเข้าไปอีก ทำไงวะ) ครับ

เหมือนเดิมครับ ถามรุ่นพี่สิครับ แต่รอบนี้รุ่นพี่เกาหัว สุดท้ายเลยต้องไปลงที่ กูเกิล แล้วผมกับรุ่นพี่ ก็ทำเป็นพร้อมๆกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

13. เลือกคำสั่ง ATT ขึ้นมา แต่คราวนี้ผมต้องใช้คำสั่งพิเศษแบบมีเงื่อนไขครับ

ติ๊กที่ Multiple lines แล้วช่อง Default จะทึบทันที ไม่ให้เราพิมพ์อะไรลงไปได้ ให้เราคลิกที่ ... ด้านหลังแทน

14. มันก็จะขึ้นหน้าต่างแบบนี้มาให้ครับ 

เราจะพิมพ์ข้อความตรงนี้ก็ได้ หรือถ้าจะใส่ค่าแบบมีเงื่อนไข ก็ให้ติ๊กที่อันแรก Insert Field

15. มันก็จะมีฐานข้อมูลมากมาย หรือเงื่อนไขมากมายให้เลือกใช้ 

ซึ่งที่ผมต้องใส่คือ แหล่งต้นทางของแบบที่ปริ๊น และ วันที่ปริ๊นแบบ

16. ผมใส่แหล่งต้นทางของแบบก่อน ซึ่งจะอยู่ในหมวดของ Document > Filename นั่นเอง เสร็จแล้วก็กด ok มันจะใส่ได้ทีละ Field

17. ตามด้วยวันที่ปริ๊น ในที่นี้เรียกใหม่ว่า พล๊อต ละกันนะครับ ก็จะอยู่ในหมวด Date & Time หรือ Plot ก็ได้ ตามด้วย PlotDate นั่นเอง ซึ่งมันก็จะเรียงต่อจากแหล่งต้นทางของแบบที่เราใส่ Field เมื่อกี้ 

18. กด ok เสร็จ หลายคนมีตกใจ เฮ้ย แล้ววันที่พล๊อตทำไมมันเป็นขีดๆๆ จะให้ไม่ขีดได้ยังไงล่ะครับ ก็มันยังไม่ได้พล๊อตเลย

19. กด ok เสร็จ มันก็จะกลับมาที่หน้าต่างนี้อีกที เราก็ทำการตั้งค่า Text Settings ให้ครบ แล้วก็กด ok ได้เลย

20. ลองกดดู Att ที่ทำขึ้น มันก็จะมีหน้าต่างบอกเลยว่า Att นี้ มีเงื่อนไข หรือ Field นี้อยู่นะ

21. จัดการทำ Block ให้ Att มันซะ text attribute จะได้ทำงาน

ลองพล๊อตดูสิ นั่นไง มาแล้ว ทั้งแหล่งข้อมูลของแบบ และวันที่พล๊อต ผมแถมเวลาให้ด้วยเลยเอ้า ฮ่าๆๆ

จบแล้วครับ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์นะครับ ยาวมากๆ ไม่รู้จะงงกันรึเปล่า